หลังจากเปิดตัวออกมาจำหน่ายกันเป็นที่เรียบร้อย กับชิป CPU ตระกูลใหม่ล่าสุด Intel Gen12 หรือในชื่อรหัสพัฒนาว่า Alder Lake ที่ Intel ตั้งใจหมายมั่นปั้นมือมาก ๆ กับชิปตระกูลนี้ พร้อมเทคโนโลยีความเปลี่ยนแปลงใหม่ที่ใส่มาให้เป็นครั้งแรก อย่างการเป็นชิปแบบ Hybrid CPU ที่ผสมผสานระหว่างคอร์ประมวลผลแบบ Performance ความเร็วสูง กับคอร์ฝั่งประหยัดพลังงาน กินไฟต่ำ สำหรับการทำงานทั่ว ๆ ไป แบ่งแยกการทำงานกันออกไปเลย เพื่อทำให้การใช้งานต่าง ๆ ต่อเนื่องได้ดีมากยิ่งขึ้น และประหยัดไฟมากขึ้น
ทำงานด้วย 10 คอร์และ 16 เธรดของ CPU มันทำงานที่ 4.90 GHz ฐาน 4.50 GHz คอร์ทั้งหมดในขณะที่ TDP ถูกตั้งไว้ที่ 125 W. โปรเซสเซอร์นั้นต่ออยู่กับซ็อกเก็ต CPU LGA 1700 เวอร์ชันนี้มีแคช L3 ขนาด 20.00 MB บนชิปตัวเดียว รองรับ 2 ช่องหน่วยความจำเพื่อรองรับ DDR4-3200, DDR5-4800 RAM และฟีเจอร์ 5.0 PCIe Gen 20 lanes Tjunction รักษาอุณหภูมิให้ต่ำกว่า 100 °C โดยเฉพาะอย่างยิ่ง Alder Lake S Architecture ได้รับการปรับปรุงด้วยเทคโนโลยี 10 nm
เป็นรุ่นที่มีราคาถูกที่สุดในตอนนี้ เหมาะสุด ๆ สำหรับคนที่ต้องการอัปเกรดขึ้นมาสู่ Gen 12th ในงบที่ต่ำที่สุด แต่ได้ประสิทธิภาพใหม่ล่าสุดตามแบบฉบับของ Alder Lake เรื่องความแรงนั้นหายห่วงได้ เพราะแม้ว่าจะเป็นตัวที่ราคาถูกที่สุด แต่มันไม่ใช่ชิประดับทั่ว ๆ ไป เพราะ Intel ใส่ความแรงมาให้แบบแน่นเต็มพิกัด เล่นเกมไหวได้ทุกเกมอย่างแน่นอนแบบเหลือ ๆ ด้วย
Intel Core i7-12700KF ทำงานด้วย 12 คอร์และ 20 เธรดของ CPU มันทำงานที่ 5.00 GHz ฐาน 4.70 GHz ทุกคอร์ในขณะที่ TDP ตั้งไว้ที่ 125 W โปรเซสเซอร์นั้นต่ออยู่กับซ็อกเก็ต CPU LGA 1700 เวอร์ชันนี้มีแคช L3 25.00 MB บนชิปตัวเดียว รองรับ 2 ช่องหน่วยความจำเพื่อรองรับ DDR4-3200, DDR5-4800 RAM และฟีเจอร์ 5.0 PCIe Gen 20 lanes Tjunction อยู่ต่ำกว่า 100 °C โดยเฉพาะอย่างยิ่ง Alder Lake S Architecture ได้รับการปรับปรุงด้วย 10 nm
ขยับขึ้นมาถัดจาก Core i5 เพิ่มความแรงขึ้นมาอีก ถือเป็นความแรงระดับสูง ที่ Intel วางตำแหน่งเอาไว้ให้กับกลุ่มซีรีส์ i7 อยู่แล้ว ความแรงชิปตัวนี้จัดหนักมาให้แบบเน้น ๆ ใครที่ต้องการความแรงที่มากกว่าระดับ i5 ก็ต้องมาตัวนี้ ส่วนรหัสต่อท้าย KF ก็คือไม่มีชิปกราฟิกในตัวมาให้ ก็จะเหมาะสำหรับคนที่เอาไปใช้งานคู่กับการ์ดจอแยกนั่นเอง จะเป็นตัวเก่าที่มีอยู่เดิมแล้ว หรือซื้อใหม่พร้อมเครื่องประกอบใหม่ก็ได้ทั้งนั้น
สำหรับชิปตัวนี้ ก็จะเป็นชิปตัวเดียวกันกับ Intel Core i7-12700KF เลย แต่ความแตกต่างจะอยู่ที่การใส่ชิปกราฟิก Intel UHD 770 มาให้ด้วยในตัวนั่นเอง จึงสามารถทำงานได้แม้ไม่มีการ์ดจอแยก หรือถ้าใครที่เอาไปใช้งานกับการ์ดจอแยก ก็ทำได้เหมือนปกติ เปรียบเสมือนการมีการ์ดจอสำรองตัวเล็กอีกหนึ่งเอาไว้ภายในเครื่อง หากว่าตัวการ์ดจอแยกเสียหายทำงานไม่ได้ขึ้นมา ก็ยังสามารถต่อทำงานผ่านการ์ดจอที่ใส่มาให้ในตัว CPU ตัวนี้ได้นั่นเอง
โปรเซสเซอร์ Intel® Core™ เจนเนอเรชั่นที่ 12 Core i9-12900KF ให้ความเร็วสัญญาณนาฬิกาสูงสุดและสถาปัตยกรรมใหม่ที่ก้าวล้ำ คุณจะสามารถผลักดันการเล่นเกมของคุณให้สูงขึ้นในขณะที่แอปรองทำงานอย่างราบรื่นในพื้นหลัง โปรเซสเซอร์นี้ปลดล็อกและโอเวอร์คล็อกได้เพื่อให้คุณสามารถปลดปล่อยประสิทธิภาพสูงสุดได้ CPU เจนเนอเรชั่นที่ 12 เข้ากันได้กับมาเธอร์บอร์ด 600 ซีรีส์ส่วนใหญ่และรองรับ PCIe Gen 5 คุณยังสามารถใช้ประโยชน์จากหน่วยความจำ DDR5 และคุณสมบัติที่ยอดเยี่ยมเช่น Intel Turbo Boost Max Technology 3.0
ขยับกันขึ้นมาอีกขั้นนึงด้วยชิประดับซีรีส์ i9 ที่เป็นซีรีส์ท็อปสุดของ Intel เอาใจสายสุดที่ต้องการความเหนือชั้น แรงสุด เร็วสุด แบบที่จะหาซื้อกันได้แล้วในตอนนี้ Intel จัดมาให้แบบหมดไส้หมดพุง ไม่มีอะไรเหลือไว้ให้กั๊กกันเลยทีเดียว ถ้าอยากจบ ก็ต้องชิปตัวนี้ตัวเดียวเท่านั้น
ความท็อปเหนือใครก็คงต้องยกให้ชิปตัวนี้ เรื่องประสิทธิภาพความแรงนั้นก็จะเหมือนกันกับตัวด้านบน Intel Core i9-12900KF แต่ความแตกต่างคือมีชิปกราฟิกมาให้ด้วยในตัว ในขณะที่ตัวรหัส KF จะไม่มีชิปกราฟิกมาให้นั่นเอง โดยราคาจะแตกต่างกันอยู่เล็กน้อยที่ 1,000 บาท
อีกจุดเด่นที่ต้องมีของชิปรุ่นนี้ก็คือแพ็กเกจตัวกล่อง ที่มีตลับใส่ตัวชิป CPU มาให้ด้วย เป็นทรงกลมทำลวดลายเหมือนเป็นแผ่นเวเฟอร์ผลิตก่อนตัดออกมาเป็นตัวชิป CPU นั่นเอง เหมาะอย่างยิ่งสำหรับสายสะสม เอามาใช้เก็บหรือตั้งโชว์ได้อย่างเท่มากทีเดียว และนี่ก็คือตัวเลือกที่แรงที่สุดเท่าที่จะหาได้จาก Intel ในเวลานี้แล้วเช่นเดียวกัน
สามารถเลือกซื้อ CPU ได้ที่ https://computeandmore.com/categories/components-diy/cpu
หรือจัดสเปคคอมได้ที่ https://computeandmore.com/custom-spec
เลือกอ่านบทความอื่นๆของ Compute And More ได้ที่ https://computeandmore.com/blogs