ภาษาไทย
Campaign
หมวดหมู่
รับประกัน
ราคา
-

GAMING KEYBOARD (เกมมิ่งคีย์บอร์ด) เกมมิ่งเกียร์

GAMING KEYBOARD

Gaming Keyboard เปลี่ยนทุกสัมผัสด้วยปลายนิ้ว

           เชื่อได้ว่า ณ เวลาปัจจุบันที่เกมออนไลน์ เกมคอมพิวเตอร์ หรือ E-Sports ที่เติบโตขึ้นมา และค่อนข้างได้รับกระแสนิยมมากขึ้น ทำให้หลายๆคนหันมาสนใจในคอมพิวเตอร์มากขึ้นและแน่นอน เหล่าอุปกรณ์เกมมิ่งเกียร์เองก็เป็นส่วนสำคัญกับการเล่นนี้อีกด้วย ซึ่งหนึ่งสิ่งที่คนให้ความสนใจกันคงหนีไม่พ้น Gaming Keyboard นั่นเอง โดยตัว Gaming Keyboard นั้นถ้าคนที่ไม่เคยใช้มาก่อนอาจจะรู้สึกว่ามันแทบไม่ได้แตกต่างไปจากตัวคีบอร์ดทั่วๆไปเลย แต่ถ้าได้ลองจับลองเล่นแล้ว จะรู้สึกได้เลยว่า Gaming Keyboard ดีๆนั้น มีการตอบสนองของการใช้งานแตกต่างไปมากๆ เลยก็ว่าได้ เรียกว่าใช้แล้วติดใจไม่รู้ลืม !


Mechanical Keyboard จุดเริ่มต้นของความแตกต่าง

           เมื่อพูดถึง Gaming Keyboard แล้วๆ หลายคนที่มีก็คงนึกถึง Mechanical Keyboard เป็นอันดับแรกๆ  โดยตัว Mechanical Keyboard นั้นมีมากมายหลายแบบมากๆ แต่สามารถจำแนกได้โดยสังเกตผู้ผลิตสวิตซ์ โดยสวิตซ์ที่ได้รับความนิยมยกตัวอย่างเช่น CherryMX , kailh , ROMER G , RAZER  และ HyperX เป็นต้น นอกเหนือจากนั้นแล้วยังมีสีเพื่อบอกความแตกต่างของสวิตซ์แต่ละประเภทอีกด้วย โดยสามารถแบ่งได้ 3 แนวหลักๆ คือ 
           1. Clicky Switch มีเอกลักษณ์ที่เสียงในการกดค่อนข้างสนุก และใช้แรงกดน้อยที่สุด มีทั้งหมด 3 สี คือ ฟ้า(Blue),ขาว(white),เขียว(Green) นั่นเอง
           2. Linear Switch มีเอกลัษณ์ที่สัมผัสในการกดสำหรับใครที่ชื่นชอบการกดคีบอร์ดแต่ไม่ชอบเสียงดัง  โดยจะใช้แรงกดค่อนข้างมาก แต่มีความทนทานและตอบสนองที่ค่อนข้างดีกว่าแบบ Clicky Switch  เพราะเป็นสวิตซ์แบบเส้นตรงเลยนั่นเองโดยจะมีอยู่  3 สีหลักๆ คือ แดง (Red)  ดำ (Black)  และ เทา (Gray)  
           3.Tactile Switch เป็นสวิตซ์ที่รวบเอกลักษณ์ของทั้ง Clicky และ Linear เข้าด้วยกัน กล่าวคือเมื่อมีการกด จะมี 2 จังหวะคล้าย Clicky แต่ เงียบเหมือน Linear นั่นเอง โดยสีที่ใช้แบบ Tactile จะมี สีน้ำตาล (Brown) เป็นหลักนั่นเอง

 

OPTICAL SWITCH

          Optical Switch มีพื้นฐานการส่วนประกอบคล้าย Mechanical Keyboard แต่หลักการทำงานจะต่างกัน โดย Mechanical Keyboard จะทำงานผ่านสปริงให้ขั้วที่ฉาบสารนำไฟฟ้าชนกับตัวแผ่น PCB ทำให้เกิดการส่งสัญญาณข้อมูลได้ เมื่อใช้เวลาไปนานๆแผ่นทองแดงอาจเกิดการบิดงอ เสื่อมสภาพทำให้เกิดการเสียหาย แต่ Optical Switch จะทำงานเมื่อมีการกดปุ่มเข้าไป จะทำให้สปริงเปิดช่องว่างให้แสงอินฟาเรดส่องผ่านไปยังอีกขั้วแล้วส่งข้อมูลสัญญาณไปที่คีบอร์ดแทน ทำให้เกิดข้อดีในการใช้งานมากมายไม่ว่าจะเป็นอาการเบิ้ล แทบจะไม่หาไม่เจอใน Optical Switch เลยนั่นเอง โดยสามารถแบ่งได้ 2 ประเภทคือ
          - LIGHT STRIKE SWITCH  (LK SWITCH) ก็คือสวิตช์แบบ Optical Switch   ทั่วไปทำงานโดยให้แสงลอดผ่านเมื่อมีการกดปุ่มลงไปหาซื้อได้ทั่วไป มีราคาที่ไม่สูงมาก
          - Flaretech Switch เป็นสวิตช์ที่พัฒนาขึ้นมาใหม่มีกลไกการทำงานคล้ายคลึงกับ LK SWITCH เพียงแต่จะต่างกันที่แนวของอินฟราเรด โดย LK SWITCH จะยิงเป็นแนวขวาง ส่วน Flaretech จะยิงเป็นแนวตรงซึ่งทำให้ Flaretech นั้นสามารถตอบสนองได้ดีกว่า LK นั่นเอง