ภาษาไทย
Campaign

AMD, GAMING HEADSET & HEADPHONE (หูฟังเกมมิ่ง) เกมมิ่งเกียร์, TT PREMIUM GAMING HEADSET (หูฟังเกมมิ่ง) เกมมิ่งเกียร์, DELL STEREO HEADSET (หูฟังเกมมิ่ง) เกมมิ่งเกียร์, ALIENWARE GAMING HEADSET (หูฟังเกมมิ่ง) เกมมิ่งเกียร์, COOLER MASTER (หูฟังเกมมิ่ง)

ไม่พบสินค้า
ขออภัยในความไม่สะดวก ไม่พบสินค้าที่คุณค้นหา

GAMING HEADSET

          Headset  หรือ หูฟังนั้น เป็นอุปกรณ์อีกชิ้นหนึ่งที่ได้รับความนิยมและใช้งานกันอย่างแพร่หลายในปัจจุบัน โดยในปัจจุบันนั้น มีหลากหลายแบบมากมายไม่ว่าจะเป็นแบบ In-Ears  หรือ Full- Headset หรือ ออพชั่นในระบบเสียงไม่ว่าจะเป็น Surround , 5.1 และ 7.1 เป็นต้น ซึ่งแต่ละแบรนด์ แต่ละยี่ห้อ ก็จะมีลักษณะเสียงหรือจุดเด่นแตกต่างกันออกไปบางแบรนด์ เบสคมชัด บางแบรนด์เสียงโทนกลาง แต่ชัดเจนเสียงใส เป็นต้น
ประเภทระบบเสียงของหูฟัง

          1. Stereo System หรือ หูฟังแบบ 2.1 นั่นเอง โดยที่มาของระบบนี้มาจากภายในหูฟังมีแหล่งกำเนิดเสียง 2 จุดเท่านั้น คือด้านซ้ายและด้านขวา  และ แต่ละด้านก็จะมีไดร์เวอร์หลักๆ 2-3 ตัวทำหน้าที่ให้เสียงโทน ต่ำ กลาง และ สูง เหมาะสำหรับการใช้ทั่วๆไป มีข้อเสียในเรื่องของมิติเสียงที่เราจะได้รับนั่นเอง
           2. Surround System หรือ Headset  ที่มีแหล่งกำเนิดเสียงหลายตัว ไม่ว่าจะเป็น 5.1 , 7.1 หรือ THX Audio นั่นเอง โดยทิศทางของเสียงที่ได้รับนั้นจะสามารถสังเกตุได้จากคำบอกไว้บนตัวของระบบหูฟัง 5.1 หมายถึง มี 5 ทิศทาง และ 1 ซัปวูฟเฟอร์นั่นเอง โดยข้อดีของระบบ Surround คือ จะมีความสมจริงของเสียงมากเสมือนอยู่ในเหตุการณ์อย่างใดอย่างงั้น โดยหูฟังที่เป็นระบบนี้มักนิยมใช้เล่นเกมหรือชมภาพยนตร์นั่นเอง 

 


อยากเลือกหูฟังเกมมิ่งสักตัวเลือกจากอะไรดี

         1. เลือกจากคุณภาพและลักษณะของเสียงตามการใช้งาน  แน่นอนว่าหูฟังเกมมิ่งนั้นเรานำมาใช้เพื่อฟังเสียงเป็นอันดับแรกๆอยู่แล้ว แต่คุณภาพ และ ลักษณะเสียงของแต่ละแบรนด์ก็จะมีความแตกต่างกันออกไปตามแต่ละแบรนด์และหูฟังที่ดีจำเป็นที่จะต้องบอกทิศทางของเสียงได้อย่างชัดเจนว่ามาจากจุดไหน ไม่ใช่เพียงซ้ายและขวาเท่านั้น ซึ่งสิ่งที่บ่งบอกว่าคุณภาพเสียงตัวไหนดี ตัวไหนไม่ดี สามารถดูได้จาก Driver ของ หูฟังนั้นๆนั่นเอง
         2. ไมโครโฟนที่มาพร้อมหูฟังเกมมิ่งนั้นมีประสิทธิภาพแบบไหน  โดยไมโครโฟนที่ดีนั้นจะต้องมีคุณสมบัติที่รับเสียงได้คมชัด ตัดเสียงรอบข้างได้ค่อนข้างดี ถ้าไมโครโฟนรับเสียงได้ไม่ค่อยดีขาดๆหายๆ ก็คงไม่ค่อยเป็นที่ยินดีของเพื่อนร่วมทีมสักเท่าไหร่นั่นเอง
           3. ความคุ้มค่าและฟังก์ชันต่างๆ เรียกได้ว่าเป็นอีกหนึ่งส่วนที่ทำให้ราคาของหูฟังเกมมิ่งนั้นแตกต่างกันไป โดยในส่วนนี้จะมีความคุ้มค่ากันออกไป โดยจะมีทั้ง วัสดุ ระบบเสียง รูปทรง ดีไซน์ ไปจนถึง สีไฟ RGB หรือ ส่วนอื่นๆเพิ่มเติม โดยยกตัวอย่างแบรนด์ดังนี้
                  - HyperX  นั้นถือว่าทำได้โดดเด่น ในราคาปานกลาง คุณภาพเสียงคมชัด มีซาวน์การ์ดระบบจำลองเสียง Surround ใช้งานได้อย่างดี 
                  -  Razer  ที่มีรูปลักษณ์ดีไซน์สวยงาม เสียงเบสค่อนไปทางหนักพร้อมระบบเสียง Surround ที่พร้อม Support นั่นเอง
                  - Corsair ที่มีรูปลักษณ์ดีไซน์ที่แปลกไม่ซ้ำใคร รวมไปถึง Program Support iCUE ที่สามารถปรับไฟ ย่านเสียงต่างๆได้นั่นเอง
              - Logitech ที่ออกแบบมาเพื่อเหล่าเกมเมอร์จะมีรูปทรงที่แตกต่างจากแบรนด์อื่นๆแต่แลกมาด้วย คุณภาพของเสียงที่ถือว่าดีจากตัวไดรเวอร์ของ Logitech นั่นเอง 
                  และแบรนด์อื่นๆอีกมากมายเช่น Beyerdynamic,EPOS,Asus,Aorus หรือ Ttesport เป็นต้น

             4. อิมพีเดียนซ์ Impedence หรือ ความต้านทานของหูฟังเกมมิ่ง โดยจะวัดความต้านทานจากไฟ DC ที่เข้ามาในตัวหูฟังเกมมิ่ง ซึ่งตัว Impedence เนี่ยยิ่งถ้ามีค่าสูงก็จะยิ่งให้เสียงดีกว่าแบบต่ำ เนื่องจากตัวขดลวดที่พันอยู่บนแม่เหล็กนั้นจะทำปฏิกริยากัน ทำให้เกิดเสียงหรือการสั่นสะเทือนดังนั้นเมื่อมีอิมพีแดนซ์สูงก็จะยิ่งให้เสียงดีมากขึ้นนั่นเอง